Office Syndrome คืออะไร? เมื่อ "วิถีคนทำงานยุคใหม่" มาพร้อมกับ "ภัยเงียบสุขภาพ" ตอนที่ 1
ค้นหาคำตอบว่า #OfficeSyndrome คืออะไร สาเหตุ อาการยอดฮิตที่คนวัยทำงานกว่า 60% กำลังเผชิญ และผลกระทบร้ายแรงต่อผลิตภาพองค์กร. เรียนรู้ปัญหา #สุขภาพพนักงาน ที่เกิดจากการนั่งทำงานนาน และทำไมองค์กรต้องให้ความสำคัญกับ #CorporateWellness วันนี้. พัฒนาโดย #AerialOneStudio.
Aerial one
11/23/20251 min read


ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พฤติกรรมที่เปลี่ยนตาม และภัยเงียบที่รอคอย
ในยุคดิจิทัลที่ชีวิตคนทำงานส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน "การนั่งทำงาน" ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ทว่าเบื้องหลังความสะดวกสบายนี้ กลับซ่อนภัยเงียบทางสุขภาพที่ชื่อว่า "Office Syndrome" ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงอาการปวดเมื่อยธรรมดา แต่คือกลุ่มอาการที่ส่งผลกระทบต่อทั้งตัวพนักงานและองค์กรอย่างคาดไม่ถึง
จากข้อมูลที่น่าตกใจของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า คนวัยทำงานมากถึงร้อยละ 60 กำลังเผชิญกับภาวะเสี่ยงโรค Office Syndrome และงานวิจัยในจังหวัดสมุทรสงครามยังชี้ให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ในระดับปานกลาง ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันและแก้ไขที่ต้นเหตุ
แล้ว Office Syndrome คืออะไร? สาเหตุเกิดจากอะไร? และส่งผลกระทบอย่างไรต่อพนักงานและองค์กร? เรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกันครับ
Office Syndrome คืออะไร?
Office Syndrome ไม่ใช่โรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็น "กลุ่มอาการ" ที่เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อส่วนเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรือการอยู่ในอิริยาบถใดอิริยาบถหนึ่งนานเกินไป โดยขาดการเคลื่อนไหวและพักผ่อนอย่างเพียงพอ กลุ่มอาการนี้มักพบบ่อยในพนักงานที่ต้องนั่งทำงานในออฟฟิศเป็นประจำ และมีการใช้คอมพิวเตอร์ รวมถึงมือถือเป็นหลัก
สาเหตุหลักของ Office Syndrome
ปัญหา Office Syndrome มักมีต้นตอมาจาก:
1. พฤติกรรมการทำงานซ้ำซาก: การทำท่าเดิมซ้ำๆ เช่น พิมพ์คอมพิวเตอร์ คลิกเมาส์ในท่าเดิม ก้มหน้าดูจอมือถือเป็นเวลานาน
2. ท่าทางที่ไม่เหมาะสม: การนั่งหลังค่อม, ไหล่ห่อ, ก้มคอ, นั่งไขว่ห้าง, หรือการวางแขน/ข้อมือในลักษณะที่ผิดธรรมชาติ
3. ขาดการเคลื่อนไหว: การนั่งอยู่กับที่นานเกินไป ไม่ลุกเดิน เปลี่ยนอิริยาบถ หรือยืดเหยียดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
4. สภาพแวดล้อมไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomics): โต๊ะทำงาน เก้าอี้ จอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ไม่เหมาะสมกับสรีระของพนักงาน
5. ความเครียด: ความเครียดจากการทำงานส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งโดยไม่รู้ตัว ทำให้ปัญหา Office Syndrome แย่ลง
อาการยอดฮิตของ Office Syndrome ที่พนักงานพบบ่อย
กรมอนามัยระบุ 3 อาการหลักที่พบบ่อยในคนวัยทำงาน ได้แก่:
1. ปวดหลังเรื้อรัง: โดยเฉพาะหลังส่วนล่าง และบริเวณสะบัก-ต้นคอ เกิดจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นในท่าทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้กล้ามเนื้อตึงเกร็งและบางครั้งอาจกดทับเส้นประสาท
2. ไมเกรน หรือปวดศีรษะเรื้อรัง: ความเครียด, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, หรือการจ้องหน้าจอนานเกินไป มักเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว และอาจรุนแรงถึงขั้นไมเกรน
3. มือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อค: การใช้งานข้อมือและนิ้วมือซ้ำๆ กับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ทำให้เส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นเกิดการอักเสบ บวม หรือกดทับเส้นประสาท
นอกจาก 3 อาการหลักนี้ พนักงานยังอาจพบอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน เช่น:
* ปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด: ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ สะบัก หลัง สะโพก ที่เป็นเรื้อรัง
* ตาแห้ง / ปวดตา: จากการจ้องหน้าจอนานเกินไป
* ปวดไหล่ / ข้อศอก / ข้อมือ / เข่า / ข้อเท้า: จากการใช้งานซ้ำๆ หรือการจัดวางท่าทางที่ไม่เหมาะสม
* อาการเหน็บชา / รู้สึกซ่าๆ: แสดงถึงการกดทับเส้นประสาท
ผลกระทบของ Office Syndrome: ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่คือเรื่องขององค์กร
เมื่อพนักงานต้องเผชิญกับ Office Syndrome อย่างเรื้อรัง ไม่เพียงแต่กระทบต่อคุณภาพชีวิตส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพและผลิตภาพขององค์กรด้วย:
1. ประสิทธิภาพการทำงานลดลง: อาการปวดเมื่อยเรื้อรัง ความอ่อนล้า และสมาธิที่ลดลง ทำให้พนักงานไม่สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพ ขาดสมาธิ และมีแรงจูงใจในการทำงานน้อยลง
2. อัตราการลาป่วยเพิ่มขึ้น: พนักงานที่มีอาการปวดเรื้อรังมักจำเป็นต้องลาหยุดงานเพื่อรักษาหรือพักผ่อน ส่งผลให้องค์กรมีต้นทุนด้านเวลาและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
3. ความผูกพันกับองค์กรลดลง: พนักงานที่รู้สึกว่าสุขภาพถูกละเลยหรือไม่ได้รับการดูแลจากองค์กร อาจมีความผูกพันกับองค์กรลดลง และอาจพิจารณาหาโอกาสงานที่อื่น
4. ภาพลักษณ์องค์กร: องค์กรที่ไม่มีการดูแลสุขภาพพนักงาน อาจถูกมองว่าไม่ใส่ใจสวัสดิการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Employer Branding และความสามารถในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ
5. ความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพร้ายแรง: หากปล่อย Office Syndrome ไว้โดยไม่แก้ไข อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้น เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท, กระดูกสันหลังคด, แขนขาอ่อนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงและยาวนานยิ่งขึ้น
สรุป: ถึงเวลาที่องค์กรต้องมอง Office Syndrome ในมุมมองใหม่
Office Syndrome ไม่ใช่แค่ปัญหาของพนักงานแต่ละคน แต่เป็นความท้าทายที่สำคัญขององค์กรยุคใหม่ที่ต้องหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และผลกระทบ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการหาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี มีความสุข และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าอย่างเต็มศักยภาพ
ในตอนต่อไป เราจะมาดูกันว่า Aerial One Studio มีโซลูชัน Corporate Wellness อย่างไร ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณสามารถรับมือกับภัยเงียบนี้ได้อย่างไรครับ!
